พุทธศักราช |
บันทึกเหตุการณ์ |
บันทึกเหตุการณ์ |
โบราณ | เรียกว่า เมืองสาเกตนครแห่งอาณาจักรกุลุนทะ ต่อมาอาณาจักรกุลุนทะ ถึงคราวเสื่อม เมืองสาเกตร้างไป บริเวณรอบบึงสระมีต้นกุ่มขึ้นทั่วไป จึงเรียกบริเวณนั้นว่า “บ้านกุ่ม” | ตำนานอุรังคธาตุ |
2255 (จ.ศ.1037) |
เมืองร้อยเอ็ด ปรากฏชื่อเมืองตามพงศาวดารในสมัยอยุธยา - เจ้าสร้อยศรีสมุทพุทธางกูร เจ้าผู้ครองจำปาศักดินัคบุรีศรี (เดิมชื่อ นครกาละจำบากนาคบุรีศรี) โปรดให้ “จารแก้ว” ปกครอง “บ้านทุ่ง” ขึ้นต่อนครจำปาศักดิ์ จนถึง พ.ศ. 2268 |
สมัยอยุธยา สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 พ.ศ.2301 - 2310 |
2268 (จ.ศ.1087) |
ท้าวมืด บุตรจารแก้ว สืบต่อ (จนถึง พ.ศ. 2306) - เจ้าสร้อยศรีสมุทพุทธางกูร ยกฐานะบ้านทงขึ้นเป็น “เมืองทุ่ง” ตั้งให้ท้าวมืด เป็นเจ้าเมือง |
สมัยอยุธยา สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 พ.ศ.2301 - 2310 |
2306 (จ.ศ.1125) |
ท้าวทน น้องท้าวมืด ปกครองแทน 4 ปี (จนถึง พ.ศ. 2310) - ท้าวเชียง และท้าวสูน บุตรท้าวมืด บาดหมางกับท้าวทน จึงไปขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ขอกองทัพมาปราบท้าวทน - ท้าวทน หนีไปอยู่ ณ บ้านกุดจอก - ท้าวเชียง เป็นเจ้าเมืองทง (ท้าวสูน เป็นอุปฮาด) ขาดจากการปกครองของนครจำปาศักดิมาขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา |
สมัยอยุธยา สมเด็จพระบรมราชาที่ 3 พ.ศ.2301 - 2310 |
2315 (จ.ศ.1134) |
พระยากรมท่า พระยาพรหม เห็นว่า “เมืองทุ่ง” มีชัยภูมิไม่เหมาะที่จะขยายเป็นเมืองใหญ่ (ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเซ) จึงหารือท้าวเซียง และท้าวสูน - ย้ายเมืองทุ่ง ไปตั้งใหม่ที่ดงเท้าสาร (ที่ตั้งเมืองเก่าของตำบลภูมิ) - สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ตั้ง “ดงเท้าสาร” เป็นเมือง ชื่อว่า “เมืองสุวรรณภูมิ” |
สมัยธนบุรี พระเจ้าตากสิน พ.ศ. 2310 - 2325 |
2318 (จ.ศ.1137) |
ท้าวทน (เจ้าเมืองทุ่งคนเก่า) ขอตั้ง “บ้านกุ่ม” ซึ่งเป็นที่ตั้ง เมืองร้อยเอ็ดเก่าขึ้นเป็นเมือง - สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้ยก “บ้านกุ่ม” ขึ้นเป็น “เมืองร้อยเอ็ด” ตามนามเมืองเดิม ขึ้นต่อกรุงธนบุรี ตั้ง “ท้าวทน” เป็น “พระขัติยวงศา” เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก (ครองเมืองร้อยเอ็ด 8 ปี จนถึง พ.ศ. 2326 สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ : พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช |
สมัยธนบุรี พระเจ้าตากสิน พ.ศ. 2310 - 2325 |
2408 (จ.ศ.1227) |
พระขัติยวงศา (จันทร์) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ขอตั้ง “บ้านลาดกุดยางใหญ่” เป็นเมือง - พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านลาด กุดยางใหญ่ เป็น “เมืองมหาสารคาม” ขึ้นกับเมืองร้อยเอ็ด ให้ท้าว มหาไชย (กวด) บุตรอุปฮาด (สิงห์) เป็น “พระเจริญราชเดช” เจ้าเมืองมหาสารคาม |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระจอมเกล้าฯ พ.ศ. 2394 - 2411 |
2433 (ร.ศ. 109) |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้แบ่งหน้าที่ข้าหลวงเป็น 4 กอง - เมืองร้อยเอ็ด อยู่ในบังคับของข้าหลวงเมืองอุบลราชธานี เรียกว่า “หัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือ” |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระจุลจอมเกล้า พ.ศ. 2411 - 2453 |
2434 (ร.ศ. 110) |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ทรงพระราชปรารภว่า... หัวเมืองในพระราชอาณาเขตที่ได้แบ่งปันไว้โดยกำหนดแต่ก่อนนั้น ยังหาสมควรแก่กาลสมัยไม่...) โปรดเกล้าฯ ให้จัดการปกครองใหม่ เป็น 4 กอง - เมืองร้อยเอ็ดอยู่ในบังคับของข้าหลวงเมืองลาวกาว (พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงพิชิตปรีชากรเป็นข้าหลวงใหญ่) ตั้งรักษาอยู่ ณ เมืองนคร จำปาศักดิ - พระขัติยวงษา (เภา) ผู้ว่าราชการเมืองร้อยเอ็ด ถึงแก่กรรม |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระจอมเกล้าฯ พ.ศ. 2411 - 2453 |
2435 (ร.ศ. 111) |
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้รวมหัวเมืองเข้าเป็นมณฑล ขึ้นตรงต่อกระทรวงมหาดไทย - เมืองร้อยเอ็ด ขึ้นกับมณฑลลาวกาว ตั้งที่บัญชาการมณฑลที่เมืองอุบลราชธานี (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น มณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น มณฑลอีสาน) |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระจอมเกล้าฯ พ.ศ. 2411 - 2453 |
2455 | พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้แยกมณฑลอีสานออกเป็น 2 มณฑล คือ มณฑลร้อยเอ็ดและมณฑลอุบล - มณฑลร้อยเอ็ด มี 3 เมือง คือเมืองร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระมงกุฎเกล้า พ.ศ. 2453 - 2468 |
2465 | ให้รวบรวมมณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล มณฑลอุดรขึ้นเป็นภาคอีสานตั้งที่บัญชาการภาคที่มณฑลอุดร | สมัยรัตนโกสินทร์ พระมงกุฎเกล้า พ.ศ. 2453 - 2468 |
2468 | ให้ยุบเลิกภาคอีสานแล้วเปลี่ยนเป็น มณฑลร้อยเอ็ด มณฑลอุบล มณฑลอุดร ตามเดิม โดยมณฑลร้อยเอ็ดมีพระยาแก้วโกรพ (ทองสุข ผลพันธ์ทิน) เป็นสมุหเทศาภิบาล | สมัยรัตนโกสินทร์ พระมงกุฎเกล้า พ.ศ. 2453 - 2468 |
2469 | ให้ยุบมณฑลร้อยเอ็ด มณทลอุบล มณฑลอุดร เป็นจังหวัดร้อยเอ็ดจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุดร ให้ขึ้นกับมณฑลนครราชสีมา - จังหวัดร้อยเอ็ด มีมหาอำมาตย์เอก พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ (ทอง จันทรางศุ) ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระปกเกล้า พ.ศ. 2468 - 2484 ทรงสละราชสมบัติ 2 มีนาคม 2477 |
2475 | เปลี่ยนการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย | สมัยรัตนโกสินทร์ พระปกเกล้า พ.ศ. 2468 - 2484 ทรงสละราชสมบัติ 2 มีนาคม 2477 |
2476 | รัฐบาลออกพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2476 - จัดระเบียบบริราชการส่วนภูมิภาคเป็นจังหวัดและอำเภอ - จังหวัดร้อยเอ็ด มี 9 อำเภอ คือ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี อำเภอเสลภูมิ อำเภอโพนทอง อำเภออาจสามารถ อำเภอพนมไพร อำเภอสุวรรณภูมิ อำเภอเกษตรวิสัย อำเภอจตุรพักตรพิมาน - มหาอำมาตย์โท พระชาติตระการ (ม.ร.ว.จิตร คเณจร) ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด |
สมัยรัตนโกสินทร์ พระปกเกล้า พ.ศ. 2468 - 2484 ทรงสละราชสมบัติ 2 มีนาคม 2477 |