พ่อเมืองร้อยเอ็ด ผูกแขนรับขวัญพี่น้องแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล พร้อมเน้นย้ำ จังหวัดร้อยเอ็ดมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานชาวร้อยเอ็ดและชาวไทยทุกคนที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล โดยบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งแนวทางตามมาตรการด้านแรงงานเพื่อคุ้มครองและรักษาสิทธิของแรงงาน และหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป

วันนี้ (20 ต.ค. 66) นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจแรงงานที่เดินทางกลับจากอิสราเอล พร้อมมอบสิ่งของ และ “ผูกแขนเอิ้นขวัญ” ตามประเพณีของพี่น้องประชาชนชาวภาคอีสานให้กับแรงงานไทยที่กลับมาถึงบ้านเกิด เพื่อความเป็นสิริมงคล หายเจ็บ หายป่วย หายกลัว มีอายุมั่นขวัญยืน และเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่แรงงานไทยและครอบครัวที่กลับมาจากการทำงานในประเทศอิสราเอล โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นางสาวจุฑารัตน์ สบู่ม่วง แรงงานจังหวัดร้อยเอ็ด เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

.

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดได้ลงพื้นที่ไปสำรวจสภาพปัญหาความเดือดร้อนและให้กำลังใจ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือครอบครัวของแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลตามปณิธาน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ซึ่งตนได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายอำเภอทุกอำเภอ พัฒนาการจังหวัด พัฒนาการอำเภอ และส่วนราชการทุกภาคส่วน ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวแรงงานที่ไปทำงานประเทศอิสราเอลในพื้นที่ของตนเอง โดยเร่งด่วน เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และบรรเทาความเดือดร้อน เป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ครอบครัว

.

“สำหรับแรงงานไทยที่ได้เดินทางกลับจากอิสราเอลมายังบ้านเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ด มีจำนวน 4 ราย คือ 1) นายพงศกร อินทร์วิชา ชาวตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด 2) นายอัศนีย์ บุตรช่วง ชาวตำบลเขวาทุ่ง อำเภอธวัชบุรี 3) นายประวัติ จันทะบัณฑิต ชาวตำบลน้ำอ้อม อำเภอเกษตรวิสัย และ 4) นายราชิน วรวิเศษ ชาวตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย ซึ่งพี่น้องแรงงานชาวไทยทั้ง 4 คน ที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ กระทรวงมหาดไทย และทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือ อพยพแรงงานกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย และขอบคุณจังหวัดร้อยเอ็ดที่ได้ร่วมกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนและคนในครอบครัวจัดพิธีรับขวัญอย่างอบอุ่นในวันนี้” นายทรงพลฯ กล่าว

.

นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลการสำรวจแรงงานไทยชาวร้อยเอ็ดที่เดินทางไปทำงาน ณ ประเทศอิสราเอล มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 193 คน โดยมีแรงงานไทยมีความประสงค์ขอกลับมายังประเทศไทย 12 คน และเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว 4 คน ทั้งนี้ จังหวัดร้อยเอ็ดโดยสำนักงานแรงงานจังหวัดร้อยเอ็ด ได้มีมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทยหลังกลับจากอิสราเอล ที่เรียกว่า “เงินค่าธรรมเนียมบางส่วนจากบริษัทจัดหางาน” ที่ได้รับคืนจากบริษัทที่จัดหางานในอิสราเอล สืบเนื่องจากสัญญาจ้างยังไม่ครบกำหนดเวลา โดยมีเงื่อนไข 3 ช่วงเวลา คือ 1) แรงงานทำงานไม่เกิน 18 เดือน ได้คืน 60% หักภาษีแล้วประมาณ 16,000 บาท 2) ทำงานตั้งแต่ 18 เดือนไม่เกิน 36 เดือน ได้คืน 33% หักภาษีแล้วประมาณ 8,000 บาท และ 3) ทำงานเกิน 36 เดือนจะไม่ได้รับเงินค่าธรรมเนียมคืน เพื่อเป็นสิทธิประโยชน์แก่แรงงาน กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนครบสัญญาจ้างจากเหตุสงคราม

“จังหวัดร้อยเอ็ดมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนอย่างยิ่ง และยังคงติดตามข่าวสารเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการเร่งตรวจสอบ พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจ เยี่ยมให้กำลังใจ และช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่โดยเร่งด่วนแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวแรงงานในประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถประสานไปยังนายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนพัฒนากรในพื้นที่ เพื่อเร่งติดต่อประสานงานด้านต่าง ๆ กับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทันที และสามารถติดต่อสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 เพื่อขอรับการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือได้อีกช่องทางหนึ่งตลอด 24 ชั่วโมง” นายทรงพลฯ กล่าวทิ้งท้าย


ที่มา : 

พ่อเมืองร้อยเอ็ด ผูกแขนรับขวัญพี่น้องแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล พร้อมเน้นย้ำ จังหวัดร้อยเอ็ดมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานชาวร้อยเอ็ดและชาวไทยทุกคนที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล โดยบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งแนวทางตามมาตรการด้านแรงงานเพื่อคุ้มครองและรักษาสิทธิของแรงงาน และหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป 

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02eo5x56DMMSxxwRhFUBsmy4VQQYcJwJQiYg1hDvxUQbVPsfzswzd4xHgm1PLtWVkql&id=100066624824658&mibextid=ZbWKwL

#กระทรวงมหาดไทย

#บำบัดทุกข์บำรุงสุข

#MOI

กองสารนิเทศ สป.มท.

ครั้งที่ 940/2566

วันที่ 20 ต.ค. 2566